กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) เผยความสำเร็จ“Andaman Craft Festival” ปลุกพลัง Soft Power งานศิลปหัตถกรรมไทยสุดยิ่งใหญ่ ประจักษ์แก่สายตานักท่องเที่ยว เชื่อสร้างแบรนดิ้งให้กับประเทศไทยด้วยสินค้าหัตถกรรมไทย มีนักท่องเที่ยวเข้าชมงานไม่น้อยกว่า 30,000 ราย กระตุ้นการซื้อของที่ระลึกของฝากมากกว่า 18 ล้านบาท พร้อมย้ำมูลค่าการค้าตลาดของขวัญ-ของที่ระลึกในปีนี้ 7 พันล้านบาท ไม่ไกลเกินเอื้อม

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การจัดงาน “Andaman Craft Festival” นับเป็นอีกหนึ่งผลงานด้านการส่งเสริม Soft Power ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากด้วยภูมิปัญญางานศิลปหัตถกรรมไทยให้มีความมั่นคงแข็งแรงและยั่งยืน สามารถสร้างกระแส เกิดการยอมรับ สร้างความสุขจากนักท่องเที่ยวด้วยงานฝีมือจากชาวบ้าน ชุมชน รวมทั้ง สร้างรายได้ให้แก่ผู้สร้างสรรค์งานหัตถศิลป์ โดยสะท้อนได้จากตัวเลขของผู้ที่สนใจเข้าชมงานที่หลั่งไหลเข้ามาชม ช้อป จนแน่นถนนคนเดินและลานมังกร ไม่น้อยกว่า 30,000 ราย สามารถกระตุ้นการซื้อของขวัญ ของฝาก และของที่ระลึกในกลุ่มสินค้าประเภท ผ้าบาติก ผ้าปัก ผ้าย้อมสีธรรมชาติ กระเป๋าสาน เครื่องประดับ และกางเกงมวยผ้าไทย มากกว่า 18 ล้านบาท

นอกจากนี้ การนำ “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักชกแชมป์โลกขวัญใจชาวไทย มาร่วมสร้างปรากฏการณ์ Craft Power ด้วยการเปิดตัวมาพร้อมกับกางเกงมวยผ้าไหมไทยตัวแรกของโลก ที่งดงามและวิจิตรมาก สร้างสรรค์ขึ้นจากผ้าไหมสีดำนิลของ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผสมผสานการปักสะดึงกรึงไหมแบบโบราณฝีมือชั้นครู สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยว จนกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ของประเทศในชั่วข้ามคืน รวมถึงการประกาสศักดาผ้าไทยสุดอลังการ ให้โลกรู้กับแฟชั่นโชว์โดยแอนนา เสือ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 และ ไฮดี้ มิสแกรนด์ภูเก็ต 2022 กับขบวนพาเหรดผ้าไทยและผ้าพื้นถิ่นที่งดงาม และกิจกรรมอื่นๆ ด้านงานคราฟต์อีกมากมาย

“งาน “Andaman Craft Festival” ที่จบไปในครั้งนี้มีส่วนสำคัญยิ่งในการสร้างให้เกิดวัฒนธรรมการใช้งานศิลปหัตถกรรมไทยในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้เกิดการยอมรับและเกิดการจับจ่ายใช้สอยผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยเป็นของขวัญ ของฝาก และของที่ระลึก อีกทั้ง ยังเห็นความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานเครือข่ายในจังหวัดภูเก็ต ที่ช่วยกันส่งเสริมและผลักดันสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทย สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว จนเกิดภาพจำที่ดีให้กับประเทศไทย นับว่างานนี้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก และทำให้มั่นใจว่า ในปีนี้ประเทศไทยเราจะสามารถสร้างมูลค่าการค้าในกลุ่มตลาดของขวัญ-ของที่ระลึกได้ไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านบาท อย่างแน่นอน”  นายสินิตย์ กล่าวทิ้งท้าย